มัลคอล์ม เกลเซอร์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเข้าควบคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้แล้ว หลังจากทุ่มซื้อหุ้นมาจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของสโมสร รวมทั้งจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่นๆ ด้วย
ตอนนี้จะมีวิธีการใดบ้างที่สามารถหยุด มัลคอล์ม เกลเซอร์ ได้? เพราะผู้ต่อต้านการเทคโอเวอร์ของเขาถูกมัดมือชกซะแล้ว และขณะนี้เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด โดยถือหุ้นอยู่ 62% และยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการเพื่อซื้อหุ้นในส่วนที่เหลือไปแล้ว
รอย เคตเซอร์ ผู้อำนวยการของบรูวินดอลฟิน บริษัทนายหน้าซื้อขายหุ้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า คนที่ต่อต้าน เกลเซอร์ ทำอะไรได้น้อยมากในการที่จะหยุดเขา
“แชร์โฮลเดอร์ ยูไนเต็ด (กลุ่มของแฟนบอล) มีหุ้นอยู่เพียงเล็กน้อยมาก และในความเป็นจริงแล้ว เมื่อคุณมีหุ้นมากกว่า 50% คุณก็เข้าควบคุมได้แล้ว และเมื่อคุณมีหุ้นถึง 75% คุณก็สามารถจัดการเรื่องราวต่างๆ ผ่านทางการประชุมวิสามัญ และการประชุมประจำปี แล้วพวกที่ต่อต้านคงทำอะไรได้น้อยมาก” เขากล่าว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
มหาเศรษฐีมะกันเพิ่งจะมีกรรมสิทธิ์ในหุ้น 28.7% ของ เจพี แม็คมานัส และจอห์น แม็คเนียร์ คู่หูนักธุรกิจม้าแข่งชาวไอริช โดยจ่ายไป 227.2 ล้านปอนด์
เรดฟุตบอล ซึ่งทำหน้าที่ในนามของ เกลเซอร์ กล่าวว่า คู่หูชาวไอริชได้ขายหุ้นของพวกเขาที่ราคา 300 เพนซ์ต่อหุ้น หลังจากนั้นเขาก็ได้กรรมสิทธิ์ในหุ้นของ แฮร์รี่ ด็อบสัน เจ้าของกิจการเหมืองแร่ชาวสก็อต ทำให้มีหุ้นรวมเป็น 62%
นี่ทำให้มหาเศรษฐีวัย 76 ปีเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของสโมสร และขณะนี้เขาได้ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้กับสโมสร ซึ่งมีมูลค่า 790 ล้านปอนด์
กลุ่มแชร์โฮลเดอร์ ยูไนเต็ด ปักหลักประท้วง
หน้าสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด
เพราะเหตุใดเหตุการณ์นี้ถึงน่าประหลาดใจมากนัก?
ก่อนหน้านี้มีความรู้สึกกันว่า คู่หูชาวไอริช ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการที่ เกลเซอร์ จะเข้ายึดกิจการ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จหรือไม่ น่าจะไม่ยอมขายหุ้นของพวกเขา
เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว มีรายงานว่า พวกเขารู้สึกว่า ข้อเสนอราคา 3 ปอนด์ต่อหุ้นมีมูลค่าต่ำเกินไป กลุ่มแฟนบอลได้ส่งเสียงเรียกร้องพวกเขาไม่ให้ขายหุ้นออกไป และมั่นใจว่าข้อความดังกล่าวเป็นที่เข้าใจดี และมีการคาดกันว่า คู่หูชาวไอริช ซึ่งถือหุ้นในนามของคิวบิกเอ็กซ์เพรสชั่น ทำกำไรได้ 70 ล้านปอนด์จากการลงทุนของพวกเขา
ปฏิกิริยาของสโมสรเป็นอย่างไร?
การเคลื่อนไหวมีขึ้น 2 สัปดาห์หลังจากบอร์ดบริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า จะไม่แนะนำข้อเสนอเทคโอเวอร์ของ เกลเซอร์ ให้กับนักลงทุน เพราะแผนการธุรกิจของเขาดู “ก้าวร้าว”
เกลเซอร์ ถูกกำหนดเส้นตายไว้ในวันที่ 17 พฤษภาคม ให้ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ หรือยกเลิกความพยายามของเขาที่จะซื้อทีม ข้อเสนอ 2 ครั้งแรกของเขาถูกปฏิเสธโดยบอร์ดบริหาร ซึ่งกล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับเงินกู้ยืมมากเกินไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี กล่าวถึงแถลงการณ์ของ เกลเซอร์ และกล่าวว่า กำลังรอการเปิดเผยข้อเสนออย่างเป็นทางการจากเขา บอร์ดบริหารกล่าวว่า “จะมีแถลงการณ์ครั้งต่อไปออกมาเมื่อบอร์ดได้ทบทวนแถลงการณ์ครั้งนี้แล้ว”
เพราะเหตุใดสโมสรและแฟนบอลถึงต่อต้านการเทคโอเวอร์?
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่มีการดำเนินกิจการเป็นอย่างดี โดยลงทุนในสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด และนักเตะได้โดยปราศจากหนี้สิน ข้อเสนอของ เกลเซอร์ เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินจำนวนมหาศาลเพื่อนำมาใช้ในการเทคโอเวอร์ แม้ว่าระดับของหนี้สินจะถูกลดลงจากที่เขาเคยเสนอไว้เมื่อปีที่แล้ว ขณะนี้มีความกลัวว่า ท้ายที่สุดแล้วเขาจะเข้าถือหุ้นได้มากพอที่จะโอนหนี้สินของเขามาให้กับสโมสร
กลุ่มแฟนบอลจุดไฟเผาตั๋วปีประท้วง
เมื่อไรจะเกิดเหตุการณ์นั้น?
ถ้าเขามีหุ้น 75% และอีก 1 หุ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถถูกถอนชื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์ และ เกลเซอร์ จะสามารถโอนหนี้สินของเขามาให้กับสโมสร ขณะนี้เขาขาดหุ้นเพียง 13% เท่านั้นก็จะมีหุ้นถึงระดับ 75% ถ้าเขามีหุ้น 90% และอีก 1 หุ้น เขาสามารถดำเนินการซื้อหุ้นโดยการบังคับ และยึดเอาหุ้นส่วนที่เหลืออีก 10% ของสโมสรทันที
เกลเซอร์ เคยแสดงความสนใจในฟุตบอลมาก่อนหรือไม่?
เขาเป็นเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล แทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ส แต่มีรายงานว่า การไล่ล่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นการชักจูงโดย เอวี และ โจเอล ลูกชาย 2 คนของเขา ซึ่งเป็นแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นักข่าวกีฬาในอเมริกากล่าวว่า พวกเขาไม่เคยรับรู้ถึงความสนใจในฟุตบอลของเขามาก่อนเลย โดย ชอน วิลล็อค นักข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า “ผมคิดว่าเขามองว่านี่เป็นแค่การทำเงินจากฟุตบอลเท่านั้น”
จอห์น แม็คเนียร์ เศรษฐีชาวไอริช
ยอมขายหุ้นให้กับ เกลเซอร์
ปฏิกิริยาในกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกเป็นอย่างไร?
ราคาต่อหุ้นพุ่งขึ้นไปถึงเกือบ 3 ปอนด์หลังจากมีข่าวข้อเสนอของ เกลเซอร์ ออกมา และหุ้นของสโมสรมากกว่า 100 ล้านหุ้นถูกซื้อขายกันอย่างรวดเร็วในลอนดอน แซม เดตต้า นักวิเคราะห์กล่าวว่า เขาสนใจว่าแผนการธรุกิจของ เกลเซอร์ จะก่อให้เกิดกำไรมากขึ้นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างไร ในเมื่อความรู้สึกในขณะนี้ก็คือ สโมสรแห่งนี้เป็น “สโมสรที่มีการดำเนินกิจการเป็นอย่างดี” อยู่แล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?
จะมีช่วงเวลากำหนดข้อเสนออย่างเป็นทางการ ซึ่งในช่วงนี้ผู้ถือหุ้นทั้งหลายจะแสดงว่าพวกเขายอมรับหรือปฏิเสธข้อเสนอ อย่างไรก็ตาม จากการที่มีหุ้นของคิวบิกเอ็กซ์เพรสชั่นอยู่ในมือ เกลเซอร์ ก็จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กลุ่มแฟนบอล แชร์โฮลเดอร์ ยูไนเต็ด จะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เขามีหุ้นถึง 75% หรือถ้าทำแบบนั้นไม่ได้ อย่างน้อยก็ป้องกันไม่ให้เขามีหุ้นถึง 90% แต่ในทางกลับกัน สถาบันการเงินที่ถือหุ้นอยู่อาจจะเห็นว่า ข้อเสนอราคา 3 ปอนด์ต่อหุ้นน่าดึงดูดใจทีเดียว ซึ่งนั้นจะทำให้มัลคอล์ม เกลเซอร์ กลายเป็นเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเต็มตัว
DaKinG
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC